bg policy

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ระบบท้องถิ่นดิจิทัล

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งาน ระบบท้องถิ่นดิจิทัล (“ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “ผู้ใช้บริการ”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ “สพร.” ซึ่งต่อไป ในประกาศนี้ เรียกว่า “ผู้ให้บริการ” ดำเนินการ โดยที่ ผู้ให้บริการเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม จากผู้ใช้บริการเพื่อการดำเนินการภายใต้ระบบท้องถิ่นดิจิทัลนี้
ทั้งนี้ ระบบท้องถิ่นดิจิทัลเป็นระบบสารสนเทศที่ผู้ให้บริการพัฒนาขึ้น เพื่อให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอันเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ผู้ให้บริการมีการ ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนี้

1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ให้บริการดำเนินการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้
1.1.
  • ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจสาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐในการให้บริการ ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ทั้งนี้ เป็นไป ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2561 มาตรา 8
1.2.
  • ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจสาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐในการ อำนวยการและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐ ผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 มาตรา 10 ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 4 คือ เพื่อให้ การบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว มี ประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อการให้บริการและการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้หน่วยงาน ของรัฐจัดให้มีการบริหารงานและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบและช่องทางดิจิทัล โดยมีการ บริหารจัดการและการบูรณาการข้อมูลภาครัฐและการทำงานให้มีความสอดคล้องกันและเชื่อมโยง เข้าด้วยกันอย่างมั่นคงปลอดภัยและมีธรรมาภิบาล โดยมุ่งหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวย ความสะดวกในการให้บริการและการเข้าถึงของประชาชน และในการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐต่อ สาธารณะและสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
1.3.
  • ผู้ให้บริการได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ (Consent)

2. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการ

วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
2.1 เพื่อการให้บริการระบบท้องถิ่นดิจิทัล แก่ผู้ใช้บริการ ใน บางกรณีผู้ให้บริการอาจจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการบางอย่าง ซึ่งรวมถึงกรณีการยืนยันตัวบุคคลในการเข้าใช้งานระบบ ฐานความจำเป็นในการดำเนินงานตามภารกิจ สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐ
2.2 เพื่อการปรับปรุงประสบการณ์การได้รับบริการของ ผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมและ แนวคิดของผู้ใช้บริการผ่านพฤติกรรม วิธีการใช้บริการของ ผู้ใช้บริการ และแบบสอบถามต่าง ๆ สำหรับการวิเคราะห์ผล การรับฟังความคิดเห็น ความสะดวกในการใช้เว็บไซต์ของ ระบบท้องถิ่นดิจิทัล และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้มี ความมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตามพระราชบัญญัติการ บริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 มาตรา 4 ฐานความยินยอม
2.3 เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบท้องถิ่น ดิจิทัล ฐานความจำเป็นในการดำเนินงานตามภารกิจ สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐ
2.4 เพื่อการวิเคราะห์และการทำประวัติข้อมูลส่วนตัว โดยผู้ ให้บริการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการสำหรับการ วิเคราะห์ทางสถิติและเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการทราบถึงความ ต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ บริการที่ผู้ใช้บริการเลือกใช้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้ผู้ให้บริการ สามารถให้บริการได้ดีขึ้นและกำหนดแนวทางในการปรับปรุงบริการ และเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ฐานความยินยอม
2.5 เพื่อการติดต่อกับผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการใช้ข้อมูลส่วน บุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อติดต่อกับผู้ใช้บริการ ซึ่งอาจ เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อปัญหาที่ผู้ใช้บริการแจ้งไว้กับผู้ ให้บริการ ฐานความยินยอม

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมและใช้

เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2 ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการดังรายการ ต่อไปนี้
แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวม รายการข้อมูลส่วนบุคคล จุดประสงค์ในการใช้ข้อมูล
การเก็บข้อมูลจากผู้ใช้บริการ โดยตรงผ่านการสมัคร การทำ สัญญา การทำใบสั่งจ้าง เพื่อใช้ บริการ การแสดงความคิดเห็น และการให้ข้อมูลกับระบบ เช่น การรับเรื่องร้องเรียน เป็นต้น
  • ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
  • ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
  • 1. เพื่อประโยชน์ในการใช้งาน ระบบท้องถิ่นดิจิทัลภายในให้แก่ ผู้ใช้บริการ
  • 2. เพื่อการปรับปรุงประสบการณ์ การได้รับบริการ
  • 3. เพื่อการรักษาความปลอดภัย
  • 4. เพื่อการวิเคราะห์และการทำประวัติข้อมูลส่วนตัว
  • 5. เพื่อการติดต่อกับผู้ใช้บริการ
  • 6. เพื่อการให้บริการอื่นแก่ ผู้ใช้บริการ ภายใต้ พระราชบัญญัติการบริหารงาน และการให้บริการภาครัฐผ่าน ระบบดิจิทัล พ.ศ.2562
เก็บข้อมูลจากแหล่งอื่น ซึ่งอาจ รวมถึงจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
  • การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้บริการในฐานะ ผู้เกี่ยวข้องในระบบที่จดแจ้ง ผ่านหน่วยงานของรัฐที่มี หน้าที่ความรับผิดชอบ โดยตรง โดยผู้ให้บริการจะ ขอความยินยอมจาก เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนโดยผ่านทางหน่วยงาน ที่รับผิดชอบนั้นๆ

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่
  • กรณีที่ผู้ให้บริการมีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการรักษาความปลอดภัย ของอุปกรณ์ ระบบ และข้อมูลสำคัญเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในคำประกาศฉบับนี้ ผู้ ให้บริการอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้หน่วยงานภายนอกที่ให้บริการแก่ผู้ให้บริการ เช่น การส่ง SMS การส่งอีเมล เป็นต้น
  • หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • หน่วยงานภายนอกที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของผู้ให้บริการ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้บริการ เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับการลงทะเบียนในระบบจดแจ้งหรือหากผู้ใช้บริการลงทะเบียนด้วย ตัวเองในระบบท้องถิ่นดิจิทัล ข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้บริการจะถูกเก็บรวบรวมไว้ในระบบ Digital ID ซึ่งการเข้าถึงจะกระทำได้ต่อเมื่อมีการร้องขอจากผู้มีอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น

5. สิทธิตาม พระราชบัญญัติครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้ใช้บริการอยู่ในความควบคุมของผู้ใช้บริการได้มากขึ้น โดยผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
  • 5.1
    สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)
    • เมื่อผู้ใช้บริการให้ความยินยอมกับผู้ให้บริการเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะ ผู้ใช้บริการมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือการที่ให้ความยินยอมเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมกับ ผู้ให้บริการได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของอยู่กับผู้ให้บริการ กรุณาติดต่อผู้ให้บริการ หากต้องการ
    • หากการถอนความยินยอมของผู้ใช้บริการทำให้ผู้ให้บริการอาจไม่สามารถมอบผลิตภัณฑ์หรือ บริการบางอย่างให้ได้ ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดดังกล่าว
  • 5.2
    สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน และขอให้ผู้ให้บริการทำสำเนาข้อมูล ส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการ
  • 5.3
    สิทธิในการโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
    • ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ผู้ใช้บริการมีสิทธิดังนี้
    • ขอให้ผู้ให้บริการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
    • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
  • 5.4
    สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้
  • 5.5
    สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการขอให้ผู้ให้บริการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
  • 5.6
    สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการขอให้ผู้ให้บริการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้
  • 5.7
    สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการขอให้ผู้ให้บริการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์ได้ โดยผู้ให้บริการจะดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง
    • ในกรณีที่ผู้ใช้บริการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่ผู้ให้บริการพิจารณาแล้วว่ามีความ จำเป็นต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติม ผู้ให้บริการจะขอเอกสารและ/หรือข้อมูลเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ในบางกรณีการใช้สิทธิของผู้ใช้บริการอาจถูกจำกัด หรืออาจถูกปฏิเสธการใช้สิทธิได้ ทั้งนี้ เท่าที่เป็นไปตามบทบัญญัติใน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ไม่มีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังต่างประเทศไม่ว่าในกรณีใดๆ
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว ผู้ให้บริการจะทำการ
  • ลบ ทำลายเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือ
  • ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไม่สามารถระบุตัวตนได้เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านอื่น เช่น การวิเคราะห์ทางสถิติ การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หรือประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขอยกเลิกการใช้บริการ ผู้ให้บริการจะเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลา 90 วัน หลังจากนั้นระบบจะลบข้อมูลทั้งหมดอย่างถาวร และไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานระบบให้มีความมั่นคงปลอดภัย และป้องกัน ไม่ให้ผู้อื่นที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล รวมถึงรักษาความถูกต้องของข้อมูล ผู้ใช้บริการจะต้องไม่เปิดเผยรหัสผ่าน ให้กับบุคคลภายนอกทราบ หากผู้ใช้บริการได้มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยรหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้ใช้งานระบบให้กับบุคคลอื่น หรือแม้ว่าในกรณีใด ๆ ที่ผู้ใช้บริการไม่สามารถรักษาความลับในรหัสผ่านส่วนตัว หรือไม่สามารถควบคุมการใช้งานของรหัสผ่านของผู้ใช้งานระบบได้ ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับ การกระทำใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ชื่อหรือบัญชีของผู้ใช้บริการ โดยถือว่าเป็นการกระทำโดยผู้ใช้บริการเองและ ต้องรับผิดตามกฎหมายในฐานะที่เป็นเจ้าของบัญชี
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการ ขอให้ข้อมูลกับผู้ใช้งานระบบว่า ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่สมบูรณ์แบบหรือไม่มีช่องโหว่ที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ประกอบกับอาจมีบุคคลภายนอกที่พยายามดักข้อมูลหรือทำการใด ๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลระหว่างการส่งข้อมูลหรือเข้ามาในระบบของผู้ใช้งานระบบหรือของ ผู้ให้บริการ อย่างไม่มีสิทธิตามกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานระบบไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของผู้ให้บริการ
ผู้ให้บริการกำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของระบบท้องถิ่นดิจิทัลเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ โดยผู้ ให้บริการขอรับรองว่าได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
9. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ให้บริการจะเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอผ่าน DGA Contact Center ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02-612-6060 หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ contact@dga.or.th
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานระบบถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวผู้ใช้งานระบบนั้นได้
10. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ ผู้ให้บริการอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่ผู้ให้บริการ เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านทางหน้าเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นที่ผู้ให้บริการ เห็นสมควร หรือผ่านทางผู้ดูแลระบบของหน่วยงานของผู้ใช้บริการระบบ โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ ตอนท้าย ผู้ให้บริการขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ
ในการเข้าใช้บริการระบบท้องถิ่นดิจิทัลของผู้ใช้บริการ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ หากผู้ใช้บริการระบบไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศนี้ โปรดหยุดการใช้งาน หากผู้ใช้บริการไม่เห็นด้วยกับ ข้อตกลงในฉบับนี้ และยังคงใช้งานภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในเว็บไซต์หรือระบบ ท้องถิ่นดิจิทัลแล้ว ให้ถือว่าผู้ใช้บริการได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
11. การติดต่อสอบถาม
ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
  • 11.1.
    ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
    ชื่อ: สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
    สถานที่ติดต่อ: ชั้น 17 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ 108 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราช เทวี กรุงเทพฯ 10400
    ช่องทางการติดต่อ: โทรศัพท์ 0-2612-6060
  • 11.2
    เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
    ชื่อ: สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
    สถานที่ติดต่อ : ชั้น 17 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ 108 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
    ช่องทางการติดต่อ : โทรศัพท์ 0-2612-6060